[มฟล. & สำนัก] English 2 ตะลึง ตึง ตึง

สวัสดีค่ะ พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ญาติ คนรู้จัก คนไม่รู้จัก คนที่บังเอิญผ่านเข้ามา...
อย่างแรกสุดเลย ก่อนอ่าน 
เข้าไปกดไลค์และติดตามแพทได้ในเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/learningcosmetic
โอเคอนุญาติให้อ่านต่อ 55555

วันนี้แพทจะจริงจังละนะ กลับเข้าสู่โหมดขึงขัง ซีเรียสหน่อยๆๆ
วันนี้ก็มาเล่าเรื่องเดิมๆ...แนะนำวิชาที่เรียนตอน ปี 1 เทอม 2
แต่ตารางเรียนแพทมันจะซับซ้อนนิสนึง
อธิบายแบบคนปกติก่อนละกัน (คือ แพทไม่ปกติอะ เอ๊ะ...ยังไง?)

< คนปกติ >
วิชาที่จะต้องเรียนตอน ปี1 เทอม 2
- English 1
- General Chemistry 2
- General Biology 2
- Human Anatomy and Physiology
- Free Elective 1 = วิชาเลือกเสรี 1
- General Education Elective 1 = วิชาเลือกหมวดศึกษาทั่วไป 1

< ของแพท >
- English 2 = เนื่องจากแพทสอบ IE ผ่าน เลยจะเรียนเร็วกว่าคนอื่นไป 1 Step
   ** IE = Intensive English
- General Chemistry 2
- General Biology 2
- Human Anatomy and Physiology
- ASEAN Studies = วิชาเลือกเสรีของแพทไม่อนุมัติ แพทเลยดึงวิชาอาเซียนที่ต้องเรียนตอนปี 2 มาเรียนก่อน
- General Psychology = วิชาเลือกหมวดศึกษาทั่วไป 1

ต้องบอกก่อนเดี๋ยวงง
ตอน ปี1 เทอม1 มหาวิทยาลัยจะเป็นคนลงทะเบียนเรียนให้เรา ชิวๆ เรียนกับเพื่อนเหมือนกันทุกตัว
พอขึ้น ปี1 เทอม2 เป็นต้นไป เราต้องลงเรียนเอง เลือกเซคเอง เลือกอาจารย์เอง
นั่งรอลุ้นหน้าจอคอมว่าวิชาที่เราเลือกจะอนุมัติไหม
และเน็ตมหาลัยก็จะกากสุดๆในวันสำคัญเช่นนี้
เพราะงั้น เวลาจะลงเรียนอะไร ไปนั่งปรึกษาหารือกับเพื่อนก่อน จะได้ลงเรียนด้วยกัน
บางทีเรา อนุมัติ แต่เพื่อน ไม่อนุมัติ ก็อดเรียนด้วยกันนะจ๊ะ เพราะมันใช้ระบบ random
แพทก็นั่งปวดหัวอยู่หลายวัน เดี๋ยวก็ไม่อนุมัติ พอแพทอนุมัติ เพื่อนไม่อนุมัติ ปวดเฮด...

เข้าเรื่องวันนี้เถอะ
แพทจะค่อยๆ เจาะลงไปทีละวิชานะ
วันนี้ขอพูดถึง English2 ก่อนละกัน
การที่จะลงเรียน English2 ได้ ต้องสอบ English1 ให้ผ่าน
พูดง่ายๆ ถ้าติด F, W วิชา English1 ก็จะลงเรียน English2 ไม่ได้
และก่อนจะจบปี 4 เรา"ต้อง"เรียน English1,2,3 ให้ครบ ไม่งั้นก็ไม่จบ (เข้าใจตรงกันนะ)
วิชา English1,2,3 ตัดเกรด A ที่ 85 (เยอะกว่าวิชาอื่น เพราะมหาลัยเราเก๋ๆนะคะ)
แล้วเป็นไงล่ะ ก็ฉุดเกรดแพทเลยไง เหอะๆๆๆ

English2 เรียนยากกว่า English1 เยอะมากในความรู้สึกแพท
มันจะเรียนเกี่ยวกับการเขียน Essay หรือเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษ
เขียนเอง แต่งเอง แกรมม่าต้องเป๊ะ
เวลาเขียน เขียนทีเป็นหน้ากระดาษอะ = 5 Paragraph
ตอนเรียนก็จะเริ่มเรียนเป็น Paragraph ประมาณว่าเจาะลึกเป็นแต่ละส่วนของเรียงความ
ข้อสอบก็ อืม...เขียนหมดเช่นเคย ไม่ค่อยยาก แค่เยอะ และต้องรอบคอบ

แพทขอพูดเฉพาะเซคที่แพทเรียนนะ เพราะแพทไม่รู้ว่าเซคอื่นเขาเรียนกันยังไง
หมายถึงมันสอบเหมือนกันแหละ เกณฑ์การให้คะแนนก็เหมือนกัน แต่คนละอาจารย์
(อาจารย์ที่เราเรียนด้วยจะเป็นคนให้คะแนนการบ้าน และข้อสอบ)
แพทเรียนกับ อาจารย์ Thanapong Sombat 
อาจารย์เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงค่ะ เป็นรุ่นที่ 2
อาจารย์เป็นคนเก่ง และเป๊ะ แฟร์ๆในทุกเรื่อง
คือแบบ ตั้งใจสอน ความรู้แน่น เรียนด้วยแล้วฉลาดอะ
เวลามีคำถาม ถามนอกรอบได้ อาจารย์ใจดีฟุดๆๆๆๆๆๆๆ
แต่เวลาทำการบ้าน และสอบ ไม่มีช่วยนะ หักคือหัก หักคะแนนแบบ เล่นซะจุกเลย
จากที่ถามคนอื่นๆว่าจะเรียนด้วยอีกไหม
-คนอื่น = Say NO. เพราะ มันฉุดเกรดมากถึงมากที่สุด อาจารย์หักคะแนนโหดมาก
-แพท   = เรียนอีก  เพราะ แพทมาเรียนเอาความรู้ ทำเต็มที่ละ เกรดตกก็จริงแต่คุ้ม อาจารย์เก่งมาก

คิดไม่ออกอะ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับวิชานี้อีกอะ?
พอพูดถึงวิชานี้ ความทรงจำเดียวที่เหลืออยู่คือ จุก อาจารย์หักคะแนนโหดฟุด
ความทรงจำนอกจากนั้น อาจารย์ใจดีมาก ถามแล้วตอบแบบจริงใจ
เป็นโคตรแห่งอาจารย์ สอนจากใจ ไม่รู้จะว่าไงนะ เอาเป็นว่าแพทอยากเรียนด้วยอีก
อ้อ...ความแฟร์ๆ และเป๊ะของอาจารย์
- เวลาเช็คชื่อ = ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ว่าเรามาเรียนจริงๆ
- การบ้านต่างๆ = เวลาตรวจเสร็จจะเอาคืนให้ดู
- คะแนนทุกอย่างมีที่มาที่ไป
- ตอนพรีเซนต์ รุ่นก่อนแพทโดนอัด VDO เป็นหลักฐาน (ตอนแพทพรีเซนต์ อาจารย์ลืมอัด)
- ช่วง Speaking กับรุ่นพี่ มีการอัดเสียงเป็นหลักฐาน
คืออาจารย์แฟร์จริงๆ บอกไม่ถูก จะว่าโหดไหมก็โหดมั้ง
แต่อาจารย์ตั้งใจสอนเต็มที่ ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม แต่การบ้านกับสอบไม่ช่วยเฉยๆ
และอาจารย์ไม่เคยให้ F ใครนะ เพราะถ้าเห็นว่าเรียนไม่ไหว จะเรียกไปคุยแล้วบอกให้ดรอป

คิดไม่ออกแล้วอะ ไว้เจอกันใหม่โอกาศหน้าละกัน อิอิ

สาเหตุที่ไม่ยอมมาอัพบล็อค อิอิ (หนีร้อน)

อย่าลืมเข้าไปติดตาม กดไลค์ๆๆๆๆๆ ที่ https://www.facebook.com/learningcosmetic